Tag Archives: ดื่มไวน์

Wine with girl มาแนะนำไวน์ที่เหมาะกับสาว ๆ มือใหม่หัดดื่มไวน์กัน

                ไวน์ถือเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผู้หญิงชื่นชอบ เพราะให้ความรู้สึกที่มีเสน่ห์ มีรสนิยม และสามารถใช้ในการเข้าสังคมได้ หรืออาจจะเป็นความชอบโดยส่วนตัว และที่สำคัญก็คือการดื่มไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะนั้นให้ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ดีกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น เพราะในไวน์มีสารจำพวกต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสามารถช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ เดี๋ยวนี้จึงจะเห็นสาว ๆ หลายคนเลือกที่จะเริ่มหันมาดื่มไวน์แทนการดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังสนใจอยากจะมาลิ้มลองไวน์ดูบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำไวน์ที่เหมาะกับมือใหม่กัน

อย่างที่รู้กันว่าร่างกายของผู้หญิงนั้นค่อนข้างบอบบางกว่าคุณผู้ชาย รวมไปถึงการสลายแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปด้วย ทำให้ผู้หญิงมักจะดื่มได้น้อยกว่าและมึนเมาได้มากกว่านั่นเอง เพราะฉะนั้นไวน์ที่เหมาะกับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะมือใหม่หัดดื่มจึงควรเป็นไวน์ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ไม่มากจนเกินไปและมีรสชาติที่ค่อนข้างดื่มง่ายก่อน อย่างไวน์ขาวแบบต่าง ๆ ที่จะมีรสชาติที่เปรี้ยวหวานนำมากกว่าไวน์แดง ที่จะมีรสฝาดมากกว่า หรือจะลองเป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ แชมเปญ หรือไวน์โรเซ่ที่เป็นไวน์มีฟองและให้ความรู้สึกที่สดชื่น กลิ่นหอม และดื่มง่ายซึ่งมีหลากหลายแบบให้ได้เลือกลิ้มลอง และหากไม่อยากลองดื่มเฉพาะไวน์อย่างเดียว แนะนำให้ลองดื่มคู่กับอาหาร ผลไม้ หรือขนมที่เข้ากันดู เพราะไวน์จำพวกไวน์ขาวหรือสปาร์คกลิ้งไวน์จะสามารถทานกับอาหารที่รสชาติไม่หนัก อาหารเบา ๆ เช่น สลัด หรืออาหารจำพวกเนื้อปลาได้ดี จึงเหมาะเป็นเครื่องดื่มคู่กับอาหารสำหรับสาว ๆ ที่กำลังดูแลสุขภาพเป็นพิเศษที่ไม่อยากทานอาหารมื้อหนักจนเกินไปได้เป็นอย่างดี แต่หากสาว ๆ คนไหนที่ชอบรสชาติที่หนัก ๆ ขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะลองเลือกไวน์แดงมาจิบดูก็ได้ ก็จะได้รสชาติที่แตกต่างออกไปจากไวน์ขาวโดยเฉพาะรสสัมผัสที่จะมีความฝาดและมีความเข้มข้นไปอีกแบบ

                และสำหรับสาว ๆ มือใหม่นั้นควรเริ่มต้นที่การดื่มที่วันละประมาณ 1 – 2 แก้วก่อน เพราะอย่าลืมว่าอย่างไรแล้วไวน์ก็ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ หากดื่มมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้ เพราะฉะนั้นควรเริ่มต้นที่ปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป แล้วถึงค่อย ๆ เพิ่มปริมาณไปทีละนิดจะดีว่า เพราะเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการดื่มไวน์ก็คือการค่อย ๆ ดื่มเพื่อให้ได้รับรู้ถึงรสสัมผัสทั้งกลิ่นและรสชาติที่แท้จริงของไวน์นั่นเอง รู้แบบนี้แล้วต่อไปสาว ๆ ก็อย่าลืมไปลองเลือกไวน์ที่แนะนำไปมาดื่มดูได้เลย รับรองว่าจะต้องหลงรักเครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่เรียกว่าไวน์นี้อย่างแน่นอน

Category : สาระน่ารู้

Tag : ดื่มไวน์, เลือกไวน์, ไวน์ขาว

https://bit.ly/2EocZIG

คออ่อนต้องหัดจิบ 4 เทคนิคดื่มไวน์แบบเข้าใจง่ายเพื่อให้เข้าถึงรสชาติสุดละมุน

ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบรั่นดีและเบียร์ การดื่มไวน์นั้นไม่ได้เน้นหนักไปที่การปาร์ตี้สังสรรค์ แต่การดื่มไวน์อย่างแท้จริงนั้นเน้นไปถึงเรื่องของรสสัมผัสละมุนลิ้นและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของไวน์ ซึ่งไวน์แต่ละชนิดกับปีที่ผลิตไวน์นั้นมีผลต่อรสชาติและกลิ่นของไวน์ ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้ไวน์แต่ละขวด มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน ใครที่คออ่อนดื่มแอลกอฮอล์แบบจัดหนักไม่ได้ น่าจะลองหันมาดื่มไวน์กันดูบ้าง เรามีวิธีการดื่มไวน์แบบมืออาชีพให้คุณเข้าถึงรสชาติละมุนอย่างแท้จริงของไวน์มาบอกกัน

1. See

ง่ายและตรงตัวที่สุด ก่อนจะเริ่มดื่มไวน์ ต้องเริ่มจากการดูให้ชัด เมื่อคุณรินไวน์ใส่แก้วไว้แล้ว อย่าเพิ่งรีบดื่มนะ เพราะไม่ใช่น้ำ ให้คุณหยิบแก้วไวน์ที่มีไวน์อยู่นั้นขึ้นมา (เวลาหยิบให้หยิบส่วนก้านแก้ว) ค่อย ๆ ใช้สายตาพิจารณาสีของไวน์ในแก้ว ซึ่งไวน์แต่ละชนิดจะมีสีที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นไวน์ขาว สีที่ออกมาจะมีทั้งสีเหลือง สีส้ม  สีทองหรือออกสีอำพัน หากเป็นไวน์แดง สีที่ออกมาจะออกมาแดง ๆ หรือสีเลือดหมู สิ่งที่คุณต้องดูและพิจารณาก็คือ สีและความขุ่นข้นและความใสของไวน์ สีที่เข้มและมีความข้นบ่งบอกว่าเนื้อสัมผัสของรสชาติจะเข้มและหนักสักหน่อย หากสีเข้มแต่ไม่ข้น แบบนี้ตัวบอดี้จะมาเต็มแต่รสชาติจะเบา ๆ ส่วนถ้าสีอ่อนและค่อนข้างใส รสสัมผัสก็จะออกไปโทน Light เบา ๆ ละมุนลิ้นไปอีกแบบ ส่วนที่ไม่ใสมากนักและความข้นก็ไม่ชัดเจนแบบนี้จะเป็น Medium รสสัมผัสจะกลาง ๆ

2. Swirl

เทคนิคต่อมาของการดื่มไวน์ก็คือ การแกว่ง หลังจากหยิบแก้วขึ้นมาพิจารณาสีและความข้นของไวน์แล้ว ต่อมาก็ต้องแกว่งเบา ๆ เพื่อให้ไวน์หมุนไปรอบ ๆ แก้ว การแกว่งนี้จะช่วยทำให้ไวน์ค่อย ๆ คายกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ในตัวออกมา นอกจากนั้นยังจะบ่งบอกถึงรสชาติเบื้องต้นได้ด้วย ซึ่งให้สังเกตจากน้ำไวน์ที่ไหลลงไปตามขอบแก้ว ซึ่งจะมี 2 แบบคือไหลลื่นเหมือนน้ำเปล่าไม่มีการทิ้งร่องรอยบนแก้ว กับ ไหลแบบมีความหนืดค่อย ๆ ไหลกลับลงแก้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยบ่งบอกปริมาณน้ำตาลและความหวานของไวน์ได้เลยระดับหนึ่ง การแกว่งไวน์ไปรอบ ๆ แก้วนั้นจริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่สนุกและท้าทายคล้าย ๆ กับการเล่นพนันคาสิโนและได้ลุ้นเหมือนพนันกีฬาไปกับเว็บยอดฮิตอย่าง VWIN เลยทีเดียว เพราะบางทีก็ไม่รู้ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร ถ้าเป็นคนที่ดื่มไวน์มานานแกว่งเพียงนิดเดียวก็จะรู้ได้ถึงรสสัมผัสทันที แต่คนที่เพิ่งหัดดื่มแกว่งแล้วจะคาดเดารสไว้ในใจแต่บางทีพอดื่มจริงอาจจะรู้สึกว่ารสชาติและกลิ่นแปลกไปจากที่คิดไว้เยอะมาก

3. Sniff

อย่าลืมที่จะดมกลิ่นไวน์ด้วย การดมนั้นเราจะดมจากแก้วไวน์ เพราะแก้วแบบนี้ออกแบบมาให้ส่งกลิ่นไวน์ได้ชัดเจน หากได้กลิ่นตั้งแต่การยกดมแบบห่าง ๆ บ่งบอกว่าไวน์นั้นน่าจะมีรสชาติเข้มข้น หากไวน์แก้วไหนต้องยกดมใกล้ ๆ ถึงจะได้กลิ่นจาง ๆ ก็มักจะบ่งบอกว่าไวน์แก้วนั้นความเข้มข้นไม่สูงรสจะเบา ๆ

4. Sip

ขั้นตอนสุดท้ายก็ลิ้มรสโดยการจิบ เราจะจิบ ๆ เพื่อรับรสไวน์เท่านั้น ให้พอรู้รสสัมผัสในตอนแรกว่าความหวานนั้นเป็นอย่างไร หวานน้อย หวานกลาง หรือหวานมาก แล้วมีความฝาดข้างในเป็นแบบไหน ไวน์ที่ดีนั้นทั้งกลิ่น และรสสัมผัสอันละมุนจะยังคงอบอวลอยู่ในปากค้างอยู่ในจมูกด้านในประมาณ 3-5 วินาทีแม้จะกลืนไปแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนคุณภาพและเกรดของไวน์ได้เลยนั่นเอง

นี่คือ 4 เทคนิคการดื่มไวน์แบบมืออาชีพแบบเข้าใจง่าย ใครที่ยังไม่เคยดื่มไวน์ หรือดื่มไวน์ไม่เป็นน่าจะลองนำไปใช้กันดูแล้วคุณจะรู้ว่าการดื่มไวน์มันช่างน่าสนใจกว่าการดื่มบรั่นดีหลายเท่าทีเดียว

ดื่มไวน์ยังไงให้ได้ประโยชน์ รวมข้อดีของการดื่มไวน์ที่มีต่อสุขภาพ

                ถึงแม้ว่าไวน์จะถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ที่อาจจะถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ในการดื่มในงานสังคม งานสังสรรค์หรือดื่มเพื่อช่วยให้รสชาติของอาหารดีขึ้นเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วไวน์ก็ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเสียทีเดียว เพราะหากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกดื่มให้เหมาะกับตัวเองแล้ว ไวน์ก็สามารถช่วยส่งผลดีต่อร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน ดังจะเห็นจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่พูดถึงประโยชน์ของการดื่มไวน์กันไว้บ้าง วันนี้เราจะมารวบรวมข้อดีต่าง ๆ ของไวน์ที่มีต่อสุขภาพไว้ให้ได้รู้กัน

ดื่มไวน์แล้วมีประโยชน์อย่างไร ?

                การดื่มไวน์ให้ได้ประโยชน์ต้องเป็นการดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยควรดื่มประมาณวันละ 1 – 2 แก้วเท่านั้น เพราะหากเราดื่มมากเกินไปก็ย่อมทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพเราได้ เพราะอย่าลืมว่าอย่างไรแล้วไวน์ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ประกอบอยู่ โดยการดื่มไวน์ในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้เรานอนหลับสบายขึ้นและนอนหลับได้นานขึ้น นอกจากนั้นในงานวิจัยที่ผ่านมายังพบว่าการดื่มไวน์ช่วยลดอาการเป็นหวัดของคนเราได้อีกด้วย โดยเฉพาะไวน์แดงที่มีสารป้องกันอนุมูลอิสระที่ได้จากกระบวนการบ่มไวน์ เพราะไวน์แดงนั้นเกิดจากการหมักองุ่นโดยใส่เปลือกองุ่นลงไปด้วยซึ่งในเปลือกองุ่นนั้นมีสารที่เรียกว่าทำ anthocyanin ซึ่งมักพบในผลไม้ประเภทองุ่น ทับทิม ราสเบอร์รี่ หรือผลไม้เปรี้ยวต่าง ๆ โดยถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่ช่วยป้องกันหวัดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยป้องกันภาวะเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากมีสารที่ชื่อว่า Flavonoid ที่ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ และการดื่มไวน์ยังช่วยป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม และโรคโลหิตจางอีกด้วย

นอกจากนั้นการดื่มไวน์ควบคู่กับมื้ออาหารยังช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะไวน์ขาวที่เมื่อทานคู่กับอาหารทะเลนอกจากจะช่วยดับความคาวของอาหารแล้ว ยังช่วยขจัดพิษจากอาหารทะเลและเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายของเราอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกหากผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพจะเลือกที่จะดื่มไวน์แทนการเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยทำให้มื้ออาหารนั้นกลมกล่อมมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยดูแลสุขภาพไปในตัว แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าการดื่มที่ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพจริง ๆ ต้องเป็นการดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่สภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย เช่น บางคนอาจจะสามารถดื่มได้แค่เพียงเล็กน้อยไม่เกิน 1 แก้ว หรือบางคนอาจจะสามารถดื่มได้มากกว่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการดื่มอย่างมีสติและไม่มากเกินที่ร่างกายของตัวเองจะรับได้นั่นเอง

จากน้ำองุ่นสู่ไวน์ ความสร้างสรรค์ในแก้วใบหนึ่ง

หลาย ๆ คนทราบว่าไวน์ผลิตมาจากองุ่น แต่ทำอย่างไรจึงได้เป็นไวน์ แถมไวน์ยังมีหลากหลายชนิดอีกด้วย หากจะพูดง่าย ๆ ว่าไวน์ คือ น้ำองุ่น ที่หมักจนทำให้น้ำตาลจากน้ำองุ่นกลายเป็นแอลกอฮอล์ โดยผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน การคัดกรองแยกส่วนต่าง ๆ ของน้ำองุ่นก็จะทำให้ได้ไวน์ที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน

มารู้จักไวน์พอสังเขป
หากจะแยกถึงความแตกต่างของไวน์และความรื่นรมย์ง่าย ๆ ในการดื่มไวน์ ก็คงต้องบอกว่า รสนิยมในการดื่มไวน์นั้นเป็นรสนิยมส่วนบุคคล ในตลาดไวน์นั้นมีไวน์ให้เลือกดื่มมากมาย มาจากหลายประเทศ ไล่ไปตั้งแต่ ไวน์ฝรั่งเศส ไวน์อิตาลี ไวน์สเปน ไวน์ออสเตรียเลีย ไวน์แอฟริกาใต้ ไวน์ไทย ฯลฯ ไม่เพียงแต่มาจากประเทศไหนเท่านั้น แต่แหล่งผลิตในประเทศนั้น ๆ ก็มีส่วน แถมยังมาจากพันธุ์องุ่นว่าเป็นพันธุ์ไหน รวมทั้งไวน์ปีอะไร ฯลฯ ราคานั้นก็มีตั้งแต่ราคามิตรภาพ ไปจนถึงเห็นราคาก็หมดสภาพ (หมายถึงหมดอารมณ์ที่จะดื่ม) ไวน์อะไรขวดเดียวแพงกว่าทองเสียอีก

ความแตกต่างของไวน์แยกได้คร่าว ๆ ดังนี้

  1. มาจากผู้ผลิตไวน์ ไวน์แต่ละยี่ห้อ แต่ละเจ้าแตกต่างกันไป แม้จะเป็นไวน์จากแหล่งเดียวกัน หรือองุ่นพันธุ์เดียวกันก็ตาม หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดก็คงจะเปรียบเทียบได้กับพ่อครัว “ผู้ปรุงไวน์คือพ่อครัว” ผู้ผลิตไวน์ที่ผลิตไวน์จากองุ่นของตนเอง ย่อมมีสูต รมีเครื่องปรุงเป็นของตนเอง อันเป็นการเปรียบเทียบในเชิงทฤษฎีที่อธิบายให้เห็นความต่างของไวน์ได้ชัดเจน
  2. จากต้นองุ่นไปจนถึงการบรรจุลงขวด มาจากถิ่นฐานที่ปลูกองุ่น, ความแตกต่างของดิน, การเก็บเกี่ยวองุ่น, กระบวนการในการหมัก ความสำคัญในการเลือกถังหมักองุ่น
  3. พันธุ์องุ่นที่ดี และกระบวนการจัดการกับองุ่นที่ดี โดยผลิตไวน์ออกมาให้มีภาพลักษณ์ขององุ่นพันธุ์นั้นมากที่สุด รวมไปถึงการหมักในถังไม้ ซึ่งถือเป็นงานศิลปะของ Cellarer หรือผู้ชำนาญการประจำโรงบ่มไวน์
  4. รูปแบบการตลาด และการนำเสนอ เช่น ไวน์บรรจุขวดที่ไหน หรือผลิตที่ไหน, ฉลากไวน์บอกอะไรคุณบ้าง, เป็นจุกไม้ก๊อก หรือเป็นฝาเกลียว มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
  5. ประเทศผู้ผลิตไวน์ และแหล่งปลูกองุ่นที่สำคัญ ๆ ของประเทศนั้น ๆ
  6. การปฏิบัติต่อไวน์ โดยการดื่มไวน์อย่างมีกฎเกณฑ์ จะช่วยเพิ่มความรื่นรมย์มากยิ่งขึ้น อาทิ ใช้แก้วไวน์ประเภทไหน, ทำไมต้องเทไวน์จากแก้วหนึ่งไปยังแก้วหนึ่งโดยการหมุนก้านแก้ว, ทำไมอุณหภูมิจึงมีผลต่อรสชาติของไวน์ หรือการจัดเก็บไวน์นั้น เก็บอย่างถูกต้องหรือไม่
  7. เรื่องของรสสัมผัส สัมผัสทางสายตาที่เห็นว่าสีของไวน์เป็นอย่างไร สัมผัสทางจมูกที่ได้กลิ่นและส่งไปยังสมอง กลิ่นอโรม่าจะบอกว่าเราชอบไวน์นั้นหรือไม่ กลิ่นเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ก็สามารถตัดสินรสชาติได้เช่นกัน

นอกจากกระบวนการผลิตที่หลายขั้นตอนแล้ว เราจะเห็นได้ว่าการตัดสินว่าไวน์ยี่ห้อหนึ่งแตกต่างจากอีกยี่ห้อหนึ่งอย่างไร ไม่ได้ตัดสินกันด้วยป้ายราคาเท่านั้น แต่มีหลายอย่างที่ทำให้ไวน์แตกต่างกัน ในการดื่มไวน์ก็เช่นกันหากเห็นไวน์ราคาถูก แต่ไม่รู้จักและไม่มั่นใจว่าไวน์ชนิดนั้นจะถูกปากเรา ต้องทดลองซื้อมาดื่มดู ซื้อมาขวดเดียวถ้าถูกปากถูกใจก็กลับไปซื้อมาเก็บไว้ แต่ถ้าลองแล้วรสชาติไม่เอาไหนก็เก็บไว้ปรุงอาหารได้โดยไม่ต้องเททิ้ง