หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่าไวน์โลกเก่า (Old world Wine) และมีความสงสัยว่าไวน์ที่ถูกจัดอยู่ในชนิดนี้มีความพิเศษและแตกต่างจากไวน์ทั่วไปอย่างไร วันนี้เราจะมาอธิบายคร่าว ๆ เพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับการดื่มไวน์มากยิ่งขึ้นกัน
ไวน์โลกเก่า ก็คือไวน์ที่มาจากประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรป ที่เป็นดินแดนที่มีการริเริ่มผลิตไวน์มายาวนานมากกว่าพื้นที่ใด ๆ ในโลก จึงทำให้ไวน์ที่ผลิตจากพื้นที่นี้ถูกเรียกว่าไวน์ยุคเก่า ซึ่งในแต่ละประเทศเขาก็จะมีกฎในการผลิตไวน์แบบดั้งเดิมเป็นของตัวเอง เริ่มตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์องุ่น พื้นที่สำหรับเก็บองุ่นและจำนวนแอลกอฮอล์ขั้นต่ำที่จะได้หลังจากการบ่มไวน์ ไปจนถึงปริมาณน้ำตาลที่เหลืออยู่ในไวน์
สำหรับการระบุฉลากไวน์ หลัก ๆ แล้วจะมีการระบุภูมิภาคที่ผลิตไวน์มากกว่าสายพันธุ์ขององุ่นหรือรายละเอียดขององุ่นที่ใช้ทำไวน์ สาเหตุก็เพราะคำว่า “Terroir”
Terroir แปลตรงตัวว่าโลกหรือดินแดน แต่ในความหมายของศัพท์เฉพาะทางจะแปลว่า “รสชาติของสถานที่” สื่อถึงทุกอย่างโดยรวมของพื้นที่ที่เป็นปัจจัยในการผลิตไวน์ ตั้งแต่ดินที่ใช้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์ ความชัน มุมลาดเอียง ความสูงของดิน ความชื้นและแสงแดด เพราะจริง ๆ แล้วกระแสของลมที่พัดมามีส่วนที่ทำให้รสชาติของไวน์ดีได้พอ ๆ กับความสมบูรณ์ของตัวองุ่นเลยทีเดียว แน่นอนว่าในส่วนของไวน์โลกเก่า ก็จะมีกฎที่ระบุรายละเอียดของ Terroir ที่เหมาะกับการทำไวน์มากที่สุด
ไวน์โลกเก่าจะเปรียบ Terroir เสมือนจิตรกร ผู้ทำไวน์คือผืนผ้าใบ ส่วนองุ่นคือสี แต่ในส่วนของไวน์โลกใหม่ ซึ่งเป็นไวน์กลุ่มที่ตรงกันข้ามกับไวน์โลกเก่า ผู้ทำไวน์คือจิตรกร ปัจจัยโดยรวมของการทำไวน์คือผืนผ้าใบและองุ่นก็คือสี ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบความแตกต่างของไวน์ทั้งสองชนิดได้อย่างเห็นภาพชัดเจนมากที่สุด
มาถึงประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรปและมีชื่อเสียงในเรื่องของการผลิตไวน์ นั่นก็คือประเทศต่าง ๆ ต่อไปนี้
- ออสเตรีย ได้แก่ไวน์ Riesling, Pinot Blanc และ Zweigelt
- ฝรั่งเศส ได้แก่ไวน์ Cabernet, Pinot Noirs และ Chardonnays
- เยอรมัน ได้แก่ไวน์ Pinot Noir, Riesling และ Pinot Blanc
- กรีซ ได้แก่ไวน์ Agiorghitiko, Moschofilero และ Xinomavro
- ฮังการี ได้แก่ไวน์ Furmint, Kadarka และ Furmint
- อิตาลี ได้แก่ไวน์ Piedmont, Lombardy และ Trentino-Sud Tyrol
- โปรตุเกส ได้แก่ไวน์ Tawny, Rainwater และ Vinho Verde
- สเปน ได้แก่ไวน์ Godello, Tempranillo และ Grenache
ไวน์ที่ถูกจัดอยู่เป็นไวน์โลกเก่าจะเป็นไวน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคลาสสิค เปรียบได้กับศิลปะที่ส่งต่อมาสู่รุ่นต่อรุ่นเปรียบเสมือนมรดกของโลก ซึ่งผู้ผลิตไวน์ มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎในการรังสรรค์ไวน์ตั้งแต่โบราณอย่างเคร่งครัด เพื่อให้บรรดาคอไวน์ได้ชิมไวน์แบบดั้งเดิมที่แสนมีคุณค่านั่นเอง